วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

それは秘密です!

ただいまสวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขออกตัวก่อนว่าที่หายไปนานนั้นเพราะเป็นช่วงสอบกลางภาคเลยยุ่งมากๆ ตอนนี้สอบเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ช่วงปีใหม่นี้เพื่อนคนอื่นไปเที่ยวกัน แต่เราไม่ได้ไปไหนเลยคิดว่าว่างๆก็มาอัพเดทบล็อกนี้สักหน่อยดีกว่า มาครั้งนี้มีเรื่องราวมากมายอยากแลกเปลี่ยนกับทุกคนครับ

เริ่มเรื่องแรกกันเลยดีกว่า สืบเนื่องจากที่อาจารย์มอบหมายタスクมาให้ฝึกฝนกันในห้อง มีทั้งหมดสองหัวข้อครับ ในบล็อกนี้จะขอพูดถึงหัวข้อแรกอย่างเดียว เรื่องแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ไปทำศัลยกรรมมาจนสวย เธอคนนี้มีแฟนเป็นผู้ชายหน้าตาดี และพยายามปกปิดเรื่องที่เธอไปทำศัลยกรรมมาไม่ให้แฟนรู้ แต่อยู่มาวันหนึ่งแฟนเธอกลับไปเห็นรูปที่ของเธอก่อนทำศัลยกรรมเข้า เธอตกใจและกลัวมากว่าแฟนจะรู้สึกไม่ดีกับเธอและทิ้งเธอไป แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อแฟนของเธอบอกว่าไม่เป็นอะไรพร้อมๆกับดึงวิกผมที่ใส่ไว้ออกตามรูปข้างล่าง จนเธอรู้ว่าจริงๆแล้วแฟนของเธอเป็นคนหัวล้าน  เรื่องคร่าวๆก็ประมาณนี้ครับ สิ่งที่อาจารย์มอบหมายให้ทำก็คือ ให้บรรยายภาพที่เห็นออกมาเป็นคำพูด โดยเน้นความตลก สนุกสนานลงไปด้วย สำหรับเรานับว่าค่อนข้างยากทีเดียวล่ะ ก็เลยลองพูดดูแบบโง่ๆ ได้ผลออกมาดังนี้ครับ



それは秘密です
私はね、整形美人なので、優しくてかっこいい彼氏ができて毎日幸せです。でもさ、そんな気の緩みから昔の写真を彼氏に見られちゃって、私は「どうしようかなあ」と悩んでいました。でも、彼氏はこう言いました。「そんなことしなくていいのに」って言いました。すると、彼は頭からかつらを取って、私は更に驚きました。なぜなら、私の彼氏は実ははげ頭の男なのです

ด้วยเวลาที่จำกัดและความตื่นเต้นอีกทั้งนึกคำศัพท์ไม่ออกเลยออกมาอย่างที่เห็น ยอมรับว่าแย่มากๆ TT หลังจากที่ลองทำดูแล้ว อาจารย์ก็แจกตัวอย่างที่คนญี่ปุ่นทำมาให้ลองศึกษาความแตกต่างและ内省 ตัวเอง เลยพบว่าที่ตัวเองพูดไปนั้นยังมีจุดที่ควรปรับปรุงแก้ไขหลายที่ ยกตัวอย่างเช่น

๑.    การไม่รู้คำศัพท์บางคำที่จำเป็นในเรื่อง เช่นคำว่า ถอดวิกผมออก คำว่าถอดตรงนี้เราไม่รู้ว่าควรจะให้ว่าอะไร ที่นึกขึ้นได้ตอนนั้นก็มีแต่คำว่า 取るเลยใช้ไป แต่ก็ไม่รู้ว่าถูกต้องหรือเปล่า เมื่อได้ศึกษาตัวอย่างก็พบว่าคำว่า取るนั้นสามารถใช้ได้ แต่ที่คนญี่ปุ่นใช้กันนั้นเขาจะบรรยายให้เห็นภาพชัดขึ้นมากกว่าคำ取るอย่างเดียว ประมาณว่า “เอามือจับไปที่ผม แล้วดึงลงมา” ทำให้ผู้ฟังจินตนาการถึงการเคลื่อนไหว อีกทั้งคำว่า “หัวล้าน” นั้น เราใช้คำว่า はげ頭ที่แปลว่าหัวล้านไป แต่น่าแปลกที่คนญี่ปุ่นเขาไม่ใช้คำนี้ แต่กลับใช้คำว่า つるつるぴかぴかที่เป็นคำเลียนเสียงธรรมชาติแสดงลักษณะของหัวล้านที่ไม่มีผม เป็นมันสะท้อนแสง ทำนองนั้น(เหรอ)แทน ประโยคทั้งหมดที่คนญี่ปุ่นใช้คือประโยคที่ว่า 自分の髪の毛に手を持っていって、つるって、髪の毛を取ったのよ。そしたら、彼の頭もつるつるぴかぴかだったの。  ก็นับว่าเป็นประโยคที่ละเอียดและบรรยายได้ชัดเจนกว่าที่ตัวเองใช้แค่ว่า彼は頭からかつらを取って、。。。私の彼氏は実ははげ頭の男なのですซึ่งเข้าใจเหมือนกัน แต่สั้นและห้วนเกิน

๒.   เนื้อเรื่องที่ตัวเองเล่าออกมานั้นไม่มีคำที่ใช้แสดงอารมณ์ความรู้สึกของคนเล่าที่มีส่วนร่วมกับผู้ฟัง คำหรือประโยคอย่างที่ว่าก็เช่น

ねえ、ねえ、聞いてよ。
すごい面白いのよ。
そこで彼は何と言ったと思う?
それからどうなったと思う?
彼、何したと思う?
すごいカップルでしょう?
もう大ピンチでしょう?

          สิ่งที่ได้รู้เพิ่มเติมก็คือ การใส่ 表現แบบนี้ลงไปด้วยจะทำให้การเล่าเรื่องของเรานั้นสนุกสนานมากขึ้น เป็นการนึกถึงผู้ฟัง ไม่ใช่ว่าเราเล่าเรื่องอยู่คนเดียวแบบคนบ้า ฮ่าๆๆ

๓.   รู้สึกว่าการเล่าเรื่องของตัวเองนั้นสั้นเกินไป จบเร็วเกินไปและอาจไม่ค่อยสนุก ดูๆไปแล้วเหมือนไม่ได้เล่าเรื่องอยู่ เลยคิดว่าถ้าพูดได้ยาวกว่านี้ก็คงจะโอเค (ก็พูดไม่ได้นี่นา เหอะๆๆๆ)

๔.   จากที่อาจารย์ได้ตรวจให้พบว่ามีสองจุดที่ควรแก้ไขคือ อย่างแรกคือประโยค なぜなら、私の彼氏は実ははげ頭の男なのですใช่แล้วครับ เรื่องการใช้ なぜならและคำที่จะใช้ลงท้ายประโยคนั่นเอง ทั้งๆที่เป็นหัวข้อไวยากรณ์ที่ได้เรียนมาอย่างดีแล้วตั้งแต่ระดับมัธยมว่า なぜならต้องลงท้ายประโยคด้วยからですแต่ก็ยังผิด แบบนี้แล้วนับว่า 許せないจริงๆ ประโยคข้างต้นถ้าจะแก้ไขให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ต้องพูดว่า なぜなら、私の彼氏は実ははげ頭の男だからですจึงจะถูกต้องครับ

๕.   อย่างที่สองคือประโยคでもさ、そんな気の緩みから昔の写真を彼氏に見られちゃって、私は「どうしようかなあ」と悩んでいましたในส่วนนี้ตรงหลัง ちゃってอาจารย์แนะนำให้จบประโยคแล้วขึ้นประโยคใหม่ เหตุผลก็คงเพราะประโยคข้างต้นยาวเกินไปและเนื้อหาของทั้งสองประโยคนั้นเป็นคนละเรื่อง ตัดประโยคเสียจะฟังเข้าใจง่ายกว่าก็เป็นได้ ตรงนี้อาจพูดใหม่ได้ว่า でもさ、そんな気の緩みから昔の写真を彼氏に見られちゃいました。それで、私は「どうしようかなあ」と悩んでいました。



สิ่งที่สังเกตและได้เรียนรู้จาก タスクครั้งนี้เกี่ยวกับ文末表現ก็คือวิธีการใช้รูปจบประโยคของผู้หญิงและผู้ชายนั้นไม่เหมือนกัน สังเกตได้จากตัวอย่างที่คนญี่ปุ่นทั้งหญิงและชายเขียน ผู้หญิงมักจะลงท้ายประโยคด้วย  เช่น

  • その顔はすごーいブスなの
  • すごい美人になったのね
  • 髪の毛を取ったのよ
  • ひかぴかだったの
  • カツラだったのよ

เป็นต้น แต่ในขณะที่ผู้ชายไม่ค่อยใช้จบประโยค แต่จะใช้だよね、さหรือไม่ก็คำนามจบประโยคแทน เช่น

  • 彼女はきっと振られるだろうなと思ったわけ
  • 「気にしなくていいのに」と言うわけ
  • つまり、彼氏、カツラだったっていうこと
  • すごい美人になったんだよね
  • 整形したことがばれちゃったんだよね
  • どっちもどっちだよね
  • おもむろに頭に手をやって
  • 以外に彼氏の方は平気で


เป็นต้น เรื่องความแตกต่างในการจบประโยคของผู้ชายและผู้หญิงนี้ ถ้ามีโอกาสจะลองไปค้นคว้าแล้วมาแบ่งปันในบล็อกครั้งต่อๆไปนะทุกคน

タスクครั้งนี้คิดว่าคงไม่เขียนใหม่ครับ เพราะคิดว่าก็คงจะเหมือนกับลอกตัวอย่างของคนญี่ปุ่นมา เอาเป็นว่าจะจดจำสิ่งที่ได้ศึกษาไว้ใช้ในอนาคตก็แล้วกัน สิ่งที่ได้เรียนรู้จากタスクนี้ก็คือ ทักษะการเล่าเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆและก็ใช่ว่าทุกคนจะเล่าได้ดี ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างมาก อีกทั้งคิดได้ว่าเรายังต้องฝึกฝนทักษะการเล่าเรื่องของเราอีกเยอะ เหอะๆๆ เดี๋ยวต่อบล็อกหน้าครับ

3 ความคิดเห็น:

  1. อันนี้โดยส่วนตัวผมคิดว่า บางทีการเรียนภาษามันก็มีส่วนยากซึ่งก็คือคำศัพท์หรือสำนวนที่ใช้ในสถานการณ์เฉพาะบางอย่าง เช่น ถอดวิก หัวล้าน ซึ่งบางที เราไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน เราก็อาจไม่ทราบว่าจริงๆเเล้วเค้าใช้คำว่าอะไรกันเเน่ ดังนั้นที่ผมเเนะนำคือพยายามดูหนังหรืออะไรก็ตามที่เป็นภาษาญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นเค้าใช้กันจริงๆ เราจะได้เห็นหลายๆสถานการณ์ในชีวิตประจำวันนอกห้องเรียนเเละก็จะได้เรียนรู้คำศัพท์พวกนี้ไปด้วย สู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ :))

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากครับ คุณSuddhakara
    จะพยายามครับ

    ตอบลบ
  3. บล็อกของธนบัตรเข้าใจและได้ความรู้มากค่ะ ครั้งนี้ทำให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้คำลงท้ายของเพศหญิงและชายมากขึ้นด้วยค่ะ

    ตอบลบ